Shadowverse World Beyond

 





ShadowVerse คืออะไร ShadowVerse คือการ์ดเกมแบบดิจิทัลที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วโลกในวันที่ 17 มิถุนายน 2016 บนระบบ PC และมือถือ iOS กับ Android พัฒนาโดยค่าย Cygames ที่มีกติกาการเล่นเข้าใจง่ายพร้อมภาพงานศิลป์แบบอนิเมะญี่ปุ่น พร้อมกับการ Collaboration ตัวละครจากซีรีส์อนิเมะอื่น ๆ อีกมากมาก และได้รับความนิยมให้กลุ่มคนชอบเล่นการ์ดเกมจากญี่ปุ่นในระดับหนึ่ง และหลังจากที่เปิดให้บริการมาได้เกือบสิบปี Cygames ก็เลือกที่จะทำสิ่งใหม่ ด้วยการสร้างภาคต่อเป็นเกมใหม่ในชื่อว่า ShadowVerse: Worlds Beyond ที่กำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ซึ่งตรงกับวันที่เกมภาคแรกเปิดให้บริการเมื่อเก้าปีที่แล้ว
ShadowVerse: Worlds Beyond มีการเปลี่ยนแปลงหลายส่วนเมื่อเทียบกันกับเวอร์ชันแรกสุด อย่างแรกคือหน้าตา UI ที่มีการปรับเปลี่ยนให้มองได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการเล่นบนเครื่องมือถือหรือ Tablet มากกว่าเดิม และกราฟฟิกเองก็พัฒนาขึ้นจากเดิมมาก ซึ่งแค่หน้าเมนูเลือกโหมดการเล่นก็รู้สึกได้ว่าคำสั่งต่าง ๆ ก็มีความละเอียดมากขึ้นและรันได้ลื่นไหลมากขึ้น สำหรับในส่วนของหน้า Home นั้นทางเรายังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะตัวเกมล็อกเอาไว้ให้ปรับแต่งได้อย่างจำกัด แต่ที่เห็นได้ชัดคือหน้าจอ Wallpaper จะเป็นแบบ Live 2D เคลื่อนไหวได้ ซึ่งต่อยอดมาจากเกมภาคเก่าในยุคหลังที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เปลี่ยนฉากหลังแบบ Live 2D ได้อย่างอิสระเหมือนกับภาคที่แล้ว
Gameplay แบบใหม่ที่ถ้าใครเคยเล่น ShadowVerse ภาคแรกมาก่อนจะเข้าใจได้เลยทันที เพราะแทบจะเหมือนกับภาคเก่าทุกอย่าง ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายหรือ Leader จะมีพลังชีวิต 20 หน่วย ผลัดเทิร์นกันเล่นการ์ดที่มีตั้งแต่ Follower หรือผู้ติดตามที่ช่วยโจมตีหรือป้องกัน โดยจะวางได้สูงสุด 5 ตัว คาถาแบบต่าง ๆ ที่มีตั้งใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือวางไว้ในสนาม ผู้เล่นที่พลังชีวิตหมดหรือการ์ดหมดกองก่อนก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป จุดที่ต่างกันนั้นก็คือตรงที่ในเทิร์นแรก ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะได้จั่วการ์ดเท่ากันคือสี่ใบ คนที่ได้เริ่มเล่นที่หลังจะได้รับ PP หรือ Playpoint เพิ่มจากปกติหนึ่งเม็ด และอีกหนึ่งเม็ดเมื่อเล่นผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ทำให้ไม่เสียเปรียบจากการเป็นผู้ตามมากนัก เพราะจะสามารถเล่นการ์ดที่มีค่า PP ที่เท่า ๆ กับฝ่ายที่เริ่มก่อนได้แม้จะได้เล่นทีหลังก็ตาม หรือถ้าเก็บไว้ใช้ในเทิร์นหลัง ๆ ก็เก็บไว้ได้สูงสุดถึง 11 แต้มเลยทีเดียว
อีกส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเรื่องของการ Evolution Follower ที่เป็นจุดเด่นหลักของเกมนี้ เม็ด Evolution นั้นในภาคแรกผู้ที่ได้เริ่มเล่นก่อนจะใช้งานได้แค่สองเม็ด คนที่เริ่มทีหลังจะใช้ได้สามเม็ดและได้สิทธิ์ในการ Evolution ก่อน ซึ่งการ Evolution นั้นจะทำให้ Follower มีพลังโจมตีกับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างละ 2 แต้ม พร้อมได้รับความสามารถ Rush หรือก็คือสามารถโจมตีใส่ Follower ฝ่ายตรงข้ามได้เลยตั้งแต่เทิร์นที่ลงมา รวมถึง Follower บางตัวจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นมาอีกเมื่อทำการ Evolution ช่วยให้พลิกเกมได้ง่ายดายขึ้น แต่ใน ShadowVerse: Worlds Beyond นั้น เม็ด Evolution จะได้รับเท่าเทียมกันทั้งสองฝ่ายคือสองเม็ด แต่จะมีรูปแบบการ Evolution แบบใหม่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ Super Evolution ที่จะเพิ่มความสามารถของ Follower ขึ้นไปอีก คราวนี้ Follower ที่ได้ Super Evolution จะได้พลังโจมตีและป้องกันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างละ 3 แต้มพร้อมความสามารถ Rush และจะไม่ถูกทำลายในเทิร์นนั้น และถ้าสามารถทำลาย Follower ฝ่ายตรงข้ามได้ ก็จะสร้างความเสียหายโดยตรงให้กับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอีก 1 แต้มด้วย พร้อมกับการขยายที่ตัวที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าได้ผ่านการ Super Evolution มาแล้วนั่นเอง
ส่วนที่เหลือก็คือการปรับระบบความสามารถแบบเก่า ๆ หรือ Keyword ให้มีความเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่ง Keyword หลายอันก็ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่าเดิม เช่น Intimidate ที่ Follower ฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถโจมตีได้ Aura ที่จะไม่สามารถถูกเล็งเป้าหมายได้จากความสามารถของการ์ดฝ่ายตรงข้าม และ Barrier ที่จะเป็นการป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้หนึ่งครั้ง เหมือนกับความสามารถ Divine Shield ของเกม HeartStone นั่นเอง โดยรวมสิ่งที่ปรับปรุงขึ้นมาจากภาคที่แล้วคือการพัฒนาระบบ Evolution ใหม่ที่จะเปลี่ยนกระแสของเกมได้ในพริบตา ปรับ Keyword ของความสามารถให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น รวมถึงปรับสมดุลของระบบเก่า ๆ ให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้น จนเรียกได้ว่าเป็นเกมใหม่ได้เลย ระบบคลาสที่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใน ShadowVerse: Worlds Beyond

ความคิดเห็น